วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2561

การคัดแยกขยะ





                  การคัดแยกขยะ
          ในแต่ละวัน มีขยะเกิดขึ้นจากกิจวัตรประจำวันของเราแต่ละคน มากน้อยต่างกันตามอายุ เพศ สภาพเศรษฐกิจ รายได้ สถานที่ กิจกรรม 

ค่านิยม ฯลฯ ขยะที่เราก่อขึ้นมีตั้งแต่เศษอาหาร กระดาษชำระ เศษกระดาษ ถึงพลาสติก ขวดแก้ว ขวดพลาสติก กระเบื้อง อะลูมิเนียม นมกล่อง ถ่านไฟฉาย หลอดไฟใช้แล้ว ฯลฯ จากปริมาณขยะมี่เกิดขึ้นในแต่ละวัน มีประมาณ 0.5-1 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน เป็นขยะจากคนในเมืองเฉลี่ย 1 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน ส่วนในสังคมชนบทปริมาณขยะจะน้อยกว่าคือ เฉลี่ยประมาณ 0.5 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน 
                การคัดแยกขยะทำให้เรารู้ว่าควรจะจัดการกำจัดขยะแต่ละประเภทอย่างไร จึงจะเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและงบประมาณ หรือขยะเช่นใดบ้างที่ควรนำกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ เนื่องจากขยะของสังคมเมืองมีปริมาณมาก หากไม่คัดแยก ค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะทั้งด้านงบประมาณ คน สถานที่ฝังกลบ การเก็บขน ก็ย่อมต้องสูงตามไปด้วย การคัดแยกขยะเพื่อให้สะดวกแก่การนำไปกำจัด หรือนำไปใช้ประโยชน์ได้ใหม่ โดยทั่วไปแยกเป็น 4 ประเภทคือ

         ขยะเศษอาหาร

         หรือขยะที่เน่าเสียได้ เป็นขยะที่ย่อยสลายได้ง่าย มีความชื้นมาก ส่งกลิ่นเหม็นได้อย่างรวดเร็ว ขยะประเภทนี้กำจัดและนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยการหมักทำปุ๋ย ใช้ในการเกษตรได้ ตัวอย่างขยะเศษอาหาร เช่น เศษผักผลไม้ เปลือกผลไม้ เนื้อสัตว์  เศษอาหาร

        ขยะรีไซเคิล
       หรือขยะยังใช้ได้ ขยะประเภทนี้บางส่วนสามารถแยกนำมาแปรรูปกลับมาใช้ใหม่ได้ เป็นการประหยัดพลังงานและทรัพยากร ได้แก่ แก้ว พลาสติก กระดาษ กระป๋องอะลูมิเนียม กระป๋องเหล็ก เศษผ้า ฯลฯ
        ขยะพิษ/อันตราย
        ถือเป็นขยะอันตรายที่จำเป็นต้องแยกทิ้งต่างหาก เนื่องจากสมบัติทางกายภาพเคมี และชีวภาพ
 เช่น ติดไฟง่าย ระเบิดได้ มีสารกัดกร่อน ขยะพิษ ได้แก่ ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ กระป๋องยาฆ่าแมลง
เครื่องสำอาง น้ำมันเครื่อง ภาชนะน้ำยาทำความสะอาดสุขภัณฑ์ ฯลฯ
      ขยะที่ต้องทิ้ง
เป็นขยะที่ไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้ และไม่สามารถแยกเป็นประเภทต่างๆ ได้ขยะทั้ง 3 ประเภทข้างต้น ทำให้ต้องทิ้งเพื่อให้รถมาเก็บขนไปทำลายหรือกำจัดต่อไป เช่น เศษกระจกแตก เปลือกลูกอม ซองขนม ซองบะหมี่สำเร็จรูป ฯลฯ
       แนวความคิดในการนำขยะกลับมาใช้ใหม่ หรือรีไซเคิล จึงเกิดมาเพื่อแก้ปัญหา แต่ในทางปฏิบัติการรีไซเคิล
ก็ยังไม่เกิดผลท่าใดนัก เพราะเราทุกคนยังไม่ตระหนักถึงปัญหาที่ตามมาจากการทิ้งขยะโดยไม่เลือก


      ขยะแบ่งได้เป็น  4 ประเภท  คือ
1) ขยะที่ย่อยสลายได้        2) ขยะรีไซเคิล         3) ขยะทั่วไป           4) ขยะพิษ
      โดยขยะรีไซเคิล ประกอบด้วย แก้ว พลาสติก กระดาษ โลหะ และอโลหะ ซึ่งมีอยู่ประมาณร้อยละ 42  ของปริมาณขยะทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ แต่ที่ผ่านมาก็มักถูกทิ้งรวมกับขยะทั่วไป



         ในบรรดาขยะรีไซเคิลนั้น กระดาษ เป็นวัสดุที่ย่อยสลายง่ายที่สุด เพราะผลิตจากเยื้อไม้ธรรมชาติ ทุกวันนี้ เรามีขยะกระดาษทั้งหมดกว่า 2 ล้านตันต่อปี มีการจัดเก็บและนำมารีไซเคิลได้ประมาณ 900,000 ตัน ส่วนที่เหลือถูกทิ้งปนเปื้อนกับขยะอื่นๆ จนไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้
          ส่วน แก้ว เป็นวัสดุที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ ปัจจุบันพบว่าขยะประเภทแก้วมีมากถึง 2 หมื่น 8 พันล้านใบ
ต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยขวดแก้วที่อยู่ในสภาพดี จะนำกลับเข้าโรงงงาน ทำความสะอาด แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งสามารถใช้หมุนเวียนได้ถึง 30 ครั้ง ส่วนขวดแก้วที่แตกแล้ว จะถูกนำไปหลอมกับวัตถุดิบเพื่อผลิตเป็นแก้วใหม่ ซึ่งเป็นการลดต้นทุน และประหยัดพลังงานจากการผลิตแก้วจากวัสดุธรรมชาติ โดยแก้ว ที่รี-ไซเคิลใหม่ จะสามารถใช้งานได้เหมือนแก้วที่ผลิตใหม่โดยทั่วไป




        ขณะที่ พลาสติก เป็นวัสดุที่สังเคราะห์มาจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมหรือน้ำมันดิบ เป็นขยะที่ย่อยสลายยากมาก มีอายุยืนยาว  ดังนั้นการนำพลาสติกมารีไซเคิล จึงเป็นการจัดการขยะที่เหมาะสมที่สุด  เช่นเดียวกับสินค้าประเภทโลหะ และอโลหะ ที่ใช้เวลาย่อยสลายประมาณ 80 -100 ปี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น