วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ขยะในโรงเรียน



1.ปริมาณขยะในโรงเรียน

ขยะในโรงเรียนที่เก็บขนจากอาคารหรือขยะที่นักเรียนสร้างขึ้นและทิ้งไม่เป็นที่ ขยะในโรงเรียนมีประมาณ 500ก.ก/อาทิตย์ แต่มีปริมาณขยะเพียงวันละ 100 ก.ก จะมีปริมาณสะสมเพิ่มขึ้นทุกๆวัน ปริมาณขยะที่บันทึกได้นี้ยังมีขยะบางส่วนที่หลงเหลือจากการเก็บของจิตอาสาอีกจำนวนหนึ่งด้วย

จากตัวเลขข้างต้นจะเห็นได้ว่าโรงเรียน กำลังเผชิญกับปัญหาขยะล้นโรงเรียน เป็นแหล่งการศึกษา มีปริมาณนักเรียนที่เข้ามาร่วมใช้ทรัพยากรในโรงเรียนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การบริโภค การศึกษา และกิจกรรมต่างๆ จากการหมักหมมของกองขยะที่ไม่ได้รับการคัดแยก ทำให้เกิดการเหม็นเน่า และทำให้ภาพลักษณ์ของโรงเรียนดูแย่ลง

                     



2.สาเหตุที่มาของขยะ

เกิดจากความมักง่ายและขาดจิตสำนึก ถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้น เป็นสาเหตุที่พบบ่อยมาก ซึ่งจะเห็นได้จากการทิ้งขยะลงตามพื้นหรือแหล่งน้ำโดยไม่ทิ้งลงในถังรองรับที่จัดไว้ให้ หรือแม้กระทั่งการซื้อของการใช้สิ่งของของนักเรียนเช่น ขนม กระดาษ แก้วน้ำ ขวดน้ำ โดยใส่ถุงพลาสติกหลายๆถุง ทำให้มีขยะเพิ่มในปริมาณมาก       





3.วิธีการป้องกันขยะในโรงเรียน

รณรงค์ให้นักเรียนมีจิตสำนึกในการทิ้งขยะให้เป็นที่ โดยเริ่มจากนักเรียนกลุ่มเล็กๆ เช่น   จิตอาสา  สภานักเรียน เป็นต้น การป้องกันและควบคุมการเพิ่มขึ้นของปริมาณขยะที่สําคัญ คือ การลดขยะที่แหล่งกําเนิด (Source reduction) โดยอาศัยขบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิต ประจําวัน การลดปริมาณขยะจะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะตั้งแต่การเก็บรวบรวม ขนส่ง การคัดแยกและใช้ประโยชน์ ตลอดจนการกําจัดขั้นสุดท้าย ลดปัญหาสภาวะสิ่งแวดล้อม และประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ โดยทั่วไปแล้วหน่วยงานองค์กรและชุมชน สามารถลดปริมาณขยะที่จะเกิดขึ้นได้ ก่อนจะทิ้งขยะ หยุดคิดสักนิดว่าเราจะสามารถลดปริมาณขยะและนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ได้ไหม





4.วิธีการลดปริมาณขยะในโรงเรียน

โรงเรียนในฐานะที่เป็นแหล่งให้ความรู้ และปลูกฝังวิถีการดำเนินชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับนักเรียนซึ่งจะเติบโตเป็นอนาคตของชาติต่อไป จึงมีแนวคิดที่จะให้นักเรียนลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นในแต่ละวันลง โดยให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ฝึกการคัดแยกขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้ วิธีการนี้นอก จากจะช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องนำเข้าเตาเผาได้แล้ว ยังเป็นการฝึกทักษะการทำงานให้กับนักเรียน และเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสิ่งของอีกด้วย



ขยะแบ่งได้เป็น 4 ประเภท


     

 ขยะแบ่งได้เป็น  4 ประเภท  คือ
1) ขยะที่ย่อยสลายได้        2) ขยะรีไซเคิล         3) ขยะทั่วไป           4) ขยะพิษ
      โดยขยะรีไซเคิล ประกอบด้วย แก้ว พลาสติก กระดาษ โลหะ และอโลหะ ซึ่งมีอยู่ประมาณร้อยละ 42  ของปริมาณขยะทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ แต่ที่ผ่านมาก็มักถูกทิ้งรวมกับขยะทั่วไป



         ในบรรดาขยะรีไซเคิลนั้น กระดาษ เป็นวัสดุที่ย่อยสลายง่ายที่สุด เพราะผลิตจากเยื้อไม้ธรรมชาติ ทุกวันนี้ เรามีขยะกระดาษทั้งหมดกว่า 2 ล้านตันต่อปี มีการจัดเก็บและนำมารีไซเคิลได้ประมาณ 900,000 ตัน ส่วนที่เหลือถูกทิ้งปนเปื้อนกับขยะอื่นๆ จนไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้
          ส่วน แก้ว เป็นวัสดุที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ ปัจจุบันพบว่าขยะประเภทแก้วมีมากถึง 2 หมื่น 8 พันล้านใบ
ต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยขวดแก้วที่อยู่ในสภาพดี จะนำกลับเข้าโรงงงาน ทำความสะอาด แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งสามารถใช้หมุนเวียนได้ถึง 30 ครั้ง ส่วนขวดแก้วที่แตกแล้ว จะถูกนำไปหลอมกับวัตถุดิบเพื่อผลิตเป็นแก้วใหม่ ซึ่งเป็นการลดต้นทุน และประหยัดพลังงานจากการผลิตแก้วจากวัสดุธรรมชาติ โดยแก้ว ที่รี-ไซเคิลใหม่ จะสามารถใช้งานได้เหมือนแก้วที่ผลิตใหม่โดยทั่วไป



        ขณะที่ พลาสติก เป็นวัสดุที่สังเคราะห์มาจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมหรือน้ำมันดิบ เป็นขยะที่ย่อยสลายยากมาก มีอายุยืนยาว  ดังนั้นการนำพลาสติกมารีไซเคิล จึงเป็นการจัดการขยะที่เหมาะสมที่สุด  เช่นเดียวกับสินค้าประเภทโลหะ และอโลหะ ที่ใช้เวลาย่อยสลายประมาณ 80 -100 ปี
          
            ปัจจุบัน มีความพยายาม ที่จะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชน มีบทบาทสำคัญในการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอย โดยการนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ ทั้งในส่วนของการใช้ซ้ำและการแปรรูปเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่
           และล่าสุด กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้ลงนามร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน ดำเนินโครงการลด แยกขยะ และนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อเป็นโครงการนำร่องในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ โดยตั้งเป้าหมาย
ลดปริมาณขยะชุมชนลงได้อย่างน้อย 25 %


มารู้จัก หลัก 3R เพื่อช่วยกันลดโลกร้อนดีกว่า



R : Reduce คือ การลดการใช้ การบริโภคทรัพยากรที่ไม่จำเป็นลง ลองมาสำรวจกันว่า เราจะลดการบริโภคที่ไม่จำเป็นตรงไหนได้บ้าง โดยเฉพาะการลดการบริโภคทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และแร่ธาตุ ต่าง ๆ การลดการใช้นี้ ทำได้ง่าย ๆ โดยการเลือกใช้เท่าที่จำเป็น เช่น ปิดไฟทุกครั้งที่ไม่ใช้งานหรือเปิดเฉพาะจุดที่ใช้งาน ปิดคอมพิวเตอร์และเครื่องปรับอากาศเมื่อไม่ใช้เป็นเวลานาน ๆ ถอดปลั๊กของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น กระติกน้ำร้อนออกเมื่อไม่ได้ใช้ เมื่อต้องการเดินทางใกล้ ๆ ก็ควรใช้วิธีเดิน ขี่จักรยาน หรือนั่งรถโดยสารแทนการขับรถไปเอง เป็นต้น เพียง-เท่านี้เราก็สามารถเก็บทรัพยากรด้านพลังงานไว้ใช้ได้นานขึ้น ประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย

R : Reuse คือ การใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด โดยการนำสิ่งของเครื่องใช้ มาใช้ซ้ำ ซึ่งบางอย่างอาจใช้ซ้ำได้หลาย ๆ ครั้ง เช่น การนำชุดทำงานเก่าที่ยังอยู่ในสภาพดีมาใส่เล่นหรือใส่นอนอยู่บ้านหรือนำไปบริจาค แทนที่จะทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ การนำกระดาษรายงานที่เขียนแล้ว 1 หน้า มาใช้ในหน้าที่เหลือหรืออาจนำมาทำเป็นกระดาษโน๊ต ช่วยลดปริมาณการตัดต้นไม้ได้เป็นจำนวนมาก การนำขวดแก้วมาใส่น้ำรับประทานหรือนำมาประดิษฐ์เป็นเครื่องใช้ต่างๆ เช่นแจกันดอกไม้หรือที่ใส่ดินสอ เป็นต้น นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดการใช้พลังงานพลังงานแล้ว ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและยังได้ของน่ารักๆ จากการประดิษฐ์ไว้ใช้งานอีกด้วย

R : Recycle คือ การนำหรือเลือกใช้ทรัพยากรที่สามารถนำกลับมารีไซเคิล หรือนำกลับมาใช้ใหม่ เป็นการลดการใช้ทรัพยากรในธรรมชาติจำพวกต้นไม้ แร่ธาตุต่าง ๆ เช่น ทราย เหล็ก อลูมิเนียม ซึ่งทรัพยากรเหล่านี้ สามารถนำมารีไซเคิลได้ยกตัวอย่างเช่น เศษกระดาษสามารถนำไปรีไซเคิลกลับมาใช้เป็นกล่องหรือถุงกระดาษ การนำแก้วหรือพลาสติกมาหลอมใช้ใหม่เป็นขวด ภาชนะใส่ของ หรือเครื่องใช้อื่นๆ ฝากระป๋องน้ำอัดลมก็สามารถนำมาหลอมใช้ใหม่หรือ

ที่มา: http://www.dmr.go.th/board/data/1232.html

การคัดแยกขยะ





                  การคัดแยกขยะ
          ในแต่ละวัน มีขยะเกิดขึ้นจากกิจวัตรประจำวันของเราแต่ละคน มากน้อยต่างกันตามอายุ เพศ สภาพเศรษฐกิจ รายได้ สถานที่ กิจกรรม 

ค่านิยม ฯลฯ ขยะที่เราก่อขึ้นมีตั้งแต่เศษอาหาร กระดาษชำระ เศษกระดาษ ถึงพลาสติก ขวดแก้ว ขวดพลาสติก กระเบื้อง อะลูมิเนียม นมกล่อง ถ่านไฟฉาย หลอดไฟใช้แล้ว ฯลฯ จากปริมาณขยะมี่เกิดขึ้นในแต่ละวัน มีประมาณ 0.5-1 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน เป็นขยะจากคนในเมืองเฉลี่ย 1 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน ส่วนในสังคมชนบทปริมาณขยะจะน้อยกว่าคือ เฉลี่ยประมาณ 0.5 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน 
                การคัดแยกขยะทำให้เรารู้ว่าควรจะจัดการกำจัดขยะแต่ละประเภทอย่างไร จึงจะเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและงบประมาณ หรือขยะเช่นใดบ้างที่ควรนำกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ เนื่องจากขยะของสังคมเมืองมีปริมาณมาก หากไม่คัดแยก ค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะทั้งด้านงบประมาณ คน สถานที่ฝังกลบ การเก็บขน ก็ย่อมต้องสูงตามไปด้วย การคัดแยกขยะเพื่อให้สะดวกแก่การนำไปกำจัด หรือนำไปใช้ประโยชน์ได้ใหม่ โดยทั่วไปแยกเป็น 4 ประเภทคือ

         ขยะเศษอาหาร

         หรือขยะที่เน่าเสียได้ เป็นขยะที่ย่อยสลายได้ง่าย มีความชื้นมาก ส่งกลิ่นเหม็นได้อย่างรวดเร็ว ขยะประเภทนี้กำจัดและนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยการหมักทำปุ๋ย ใช้ในการเกษตรได้ ตัวอย่างขยะเศษอาหาร เช่น เศษผักผลไม้ เปลือกผลไม้ เนื้อสัตว์  เศษอาหาร

        ขยะรีไซเคิล
       หรือขยะยังใช้ได้ ขยะประเภทนี้บางส่วนสามารถแยกนำมาแปรรูปกลับมาใช้ใหม่ได้ เป็นการประหยัดพลังงานและทรัพยากร ได้แก่ แก้ว พลาสติก กระดาษ กระป๋องอะลูมิเนียม กระป๋องเหล็ก เศษผ้า ฯลฯ
        ขยะพิษ/อันตราย
        ถือเป็นขยะอันตรายที่จำเป็นต้องแยกทิ้งต่างหาก เนื่องจากสมบัติทางกายภาพเคมี และชีวภาพ
 เช่น ติดไฟง่าย ระเบิดได้ มีสารกัดกร่อน ขยะพิษ ได้แก่ ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ กระป๋องยาฆ่าแมลง
เครื่องสำอาง น้ำมันเครื่อง ภาชนะน้ำยาทำความสะอาดสุขภัณฑ์ ฯลฯ
      ขยะที่ต้องทิ้ง
เป็นขยะที่ไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้ และไม่สามารถแยกเป็นประเภทต่างๆ ได้ขยะทั้ง 3 ประเภทข้างต้น ทำให้ต้องทิ้งเพื่อให้รถมาเก็บขนไปทำลายหรือกำจัดต่อไป เช่น เศษกระจกแตก เปลือกลูกอม ซองขนม ซองบะหมี่สำเร็จรูป ฯลฯ
       แนวความคิดในการนำขยะกลับมาใช้ใหม่ หรือรีไซเคิล จึงเกิดมาเพื่อแก้ปัญหา แต่ในทางปฏิบัติการรีไซเคิล
ก็ยังไม่เกิดผลท่าใดนัก เพราะเราทุกคนยังไม่ตระหนักถึงปัญหาที่ตามมาจากการทิ้งขยะโดยไม่เลือก


      ขยะแบ่งได้เป็น  4 ประเภท  คือ
1) ขยะที่ย่อยสลายได้        2) ขยะรีไซเคิล         3) ขยะทั่วไป           4) ขยะพิษ
      โดยขยะรีไซเคิล ประกอบด้วย แก้ว พลาสติก กระดาษ โลหะ และอโลหะ ซึ่งมีอยู่ประมาณร้อยละ 42  ของปริมาณขยะทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ แต่ที่ผ่านมาก็มักถูกทิ้งรวมกับขยะทั่วไป



         ในบรรดาขยะรีไซเคิลนั้น กระดาษ เป็นวัสดุที่ย่อยสลายง่ายที่สุด เพราะผลิตจากเยื้อไม้ธรรมชาติ ทุกวันนี้ เรามีขยะกระดาษทั้งหมดกว่า 2 ล้านตันต่อปี มีการจัดเก็บและนำมารีไซเคิลได้ประมาณ 900,000 ตัน ส่วนที่เหลือถูกทิ้งปนเปื้อนกับขยะอื่นๆ จนไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้
          ส่วน แก้ว เป็นวัสดุที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ ปัจจุบันพบว่าขยะประเภทแก้วมีมากถึง 2 หมื่น 8 พันล้านใบ
ต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยขวดแก้วที่อยู่ในสภาพดี จะนำกลับเข้าโรงงงาน ทำความสะอาด แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งสามารถใช้หมุนเวียนได้ถึง 30 ครั้ง ส่วนขวดแก้วที่แตกแล้ว จะถูกนำไปหลอมกับวัตถุดิบเพื่อผลิตเป็นแก้วใหม่ ซึ่งเป็นการลดต้นทุน และประหยัดพลังงานจากการผลิตแก้วจากวัสดุธรรมชาติ โดยแก้ว ที่รี-ไซเคิลใหม่ จะสามารถใช้งานได้เหมือนแก้วที่ผลิตใหม่โดยทั่วไป




        ขณะที่ พลาสติก เป็นวัสดุที่สังเคราะห์มาจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมหรือน้ำมันดิบ เป็นขยะที่ย่อยสลายยากมาก มีอายุยืนยาว  ดังนั้นการนำพลาสติกมารีไซเคิล จึงเป็นการจัดการขยะที่เหมาะสมที่สุด  เช่นเดียวกับสินค้าประเภทโลหะ และอโลหะ ที่ใช้เวลาย่อยสลายประมาณ 80 -100 ปี

ภาพการดำเนินงานเกี่ยวกับ ธนาคารขยะรีไซเคิล โรงเรียนไทยเจริญวิทยา



































ธนาคารขยะรีไซเคิล โรงรียนไทยเจริญวิทยา




ธนาคารขยะรีไซเคิล จะดีกว่าไหม? ถ้าเราทุกคน จะช่วยกันคัดแยกขยะรีไซเคิล และแทนที่แต่ละคนหรือแต่ละบ้าน จะขายขยะกันเอง เราร่วมกัน จัดตั้ง “ธนาคารขยะรีไซเคิล” ที่เป็นตัวกลางในการดําเนินการนี้แทน



หลักการของธนาคารขยะรีไซเคิล คือ การส่งเสริมการคัดแยกขยะมูลฝอย โดยเริ่มต้นที่เยาวชนสู่ชุมชน และใช้โรงเรียนเป็นสถานที่ดำเนินกิจกรรมใน



รูปแบบธนาคาร ดําเนินการโดยให้นักเรียนสมัครเป็นสมาชิกของธนาคารขยะรีไซเคิลและนําขยะรีไซเคิลมาฝาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคาร จะทําการคัดแยกและชั่งน้ำหนักขยะ แล้วคำนวณเป็นจํานวนเงิน จากนั้นบันทึกลงสมุดคู่ฝาก โดยใช้ราคาที่ทางโรงเรียนประสานกับร้านรับซื้อของเก่าเป็นเกณฑ์





ผลที่ได้ คือ นักเรียนจะมีรายได้จากการนําขยะมาฝากกับธนาคาร ส่วนธนาคารก็มีรายได้จากการเป็นตัวแทนขายขยะรีไซเคิลให้กับร้านรับซื้อของเก่าและสามารถนําผลกําไรหลังหักค่าใช้จ่ายในการดําเนินการสำหรับเป็นกองทุนเพื่อการศึกษาหรือสนับสนุนกิจกรรมอื่นๆ ในโรงเรียนได้อีกด้วย





วัตถุประสงค์

1)  เพื่อปลูกจิตสํานึกในการจัดการขยะและการรักษาสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียนสู่ชุมชน
2)  เป็นการช่วยลดปริมาณขยะและเสริมสร้างความรู้ในเรื่องการคัดแยกขยะที่ถูกต้องเหมาะสม
3)  เพื่อนําผลที่ได้จากการดำเนินการมาตั้งเป็นกองทุนสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ในโรงเรียน
4)  เพื่อเป็นการสร้างรูปแบบการจัดการขยะโดยการมีส่วนร่วมของครู บุคลากรและนักเรียน โดยใช้หลักการ 3Rs ประกอบด้วย การลดปริมาณขยะ การคัดแยกขยะเพื่อส่งไปกำจัดอย่างถูกต้อง และการนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่



วัสดุอุปกรณ์
      1)  เครื่องชั่งน้ำหนัก
      2)  สถานที่เก็บรวบรวมวัสดุรีไซเคิล
      3)  สมุดคู่ฝากและเอกสารบัญชี







ขั้นตอนการดําเนินกิจกรรมธนาคารขยะรีไซเคิล

      1)  การรับสมัครคณะทํางาน
      2)  การประชุมวางแผน

      3)  การจัดเตรียมสถานที่เก็บรวบรวมและคัดแยกขยะ

      4)  การประชาสัมพันธ์

      5)  การเปิดธนาคารขยะรีไซเคิล

      6)  การประเมินผล



บทบาทของคณะทํางานธนาคารขยะรีไซเคิล

คณะทํางานธนาคารขยะรีไซเคิล ประกอบด้วย นักเรียนของโรงเรียนที่มีความสนใจเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 10 คน หัวหน้าและรองหัวหน้าทุกห้อง จำนวน 26 คน และครูที่ปรึกษากิจกรรม จำนวน 2 คน โดยชุมนุม ธนาคารขยะรีไซเคิล ได้จัดตั้งคณะทํางานไว้สองชุด เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานและทุกคนสามารถทําหน้าที่แทนกันได้ คณะทํางานมีการประชุมเพื่อเตรียมงาน เช่น การประชาสัมพันธ์วางแผนกําหนดวัน และสถานที่เปิดธนาคารขยะรีไซเคิล การกําหนดระยะ เวลาการรับฝาก เวลาการขายขยะรีไซเคิล ฯลฯ รวมทั้งการดําเนินการต่างๆ เพื่อเปิดธนาคารและ การประเมินผลกิจกรรม

หน้าที่ของคณะทํางาน

1.  ผู้จัดการธนาคารขยะ จํานวน 1 คน มีหน้าที่รับผิดชอบการดําเนินงาน           ในภาพรวมของธนาคารขยะ



2. ครูที่ปรึกษากิจกรรม จํานวน 2 คน มีหน้าที่รับผิดชอบการดําเนิน งานของธนาคารขยะรีไซเคิล การประสานร้านรับซื้อของเก่าและดูแลเกี่ยวกับการเงินของโครงการ พร้อมทั้งดูแลเอกสารเบิก จ่ายเงิน ซึ่งเอกสารทุกฉบับสามารถตรวจสอบได้

3. เจ้าหน้าที่คัดแยกขยะและชั่งน้ำหนัก จํานวน 2 คน มีหน้าที่คัดแยกและชั่งน้ำหนักขยะรีไซเคิล   ที่สมาชิกนํามาฝาก 

4. เจ้าหน้าที่จดบันทึก จํานวน 1 คน มีหน้าที่รับผิดชอบการจดบันทึก รายละเอียดเกี่ยวกับสมาชิก ประเภท และปริมาณขยะรีไซเคิล เพื่อส่งต่อให้เจ้าหน้าที่คำนวณเงิน

5. เจ้าหน้าที่คำนวณเงิน จํานวน 1 คน มีหน้า ที่รับผิดชอบการคิดจํานวนเงินของขยะรีไซเคิล          ที่สมาชิกนํามาฝาก พร้อมรับผิดชอบการฝากถอนเงินของสมาชิก 

6. เจ้าหน้าที่บัญชี จํานวน 1 คน มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบเอกสาร การ เงิน เช่น สรุปยอดการนําฝากของสมาชิก สรุปยอดรายรับรายจ่ายของธนาคาร บันทึกยอดคงเหลือของขยะรีไซเคิล ฯลฯ โดยต้องทําการบันทึกทุกวันที่เปิดทําการ

ภารกิจเบื้องต้นที่เจ้าหน้าที่ในคณะทํางานต้องปฏิบัติงาน

1. จัดหาสถานที่ที่ใช้ในการจัดเก็บขยะรีไซเคิลก่อนนําไปขาย ยึดหลักว่าเป็นสถานที่ที่สามารถเก็บรวบรวมขยะรีไซเคิลได้ ป้องกันแดดฝนได้ ถ้ามีพื้นที่เพียงพอควร แยกประเภทขยะรีไซเคิลอย่าง ชัดเจน เป็นช่องสําหรับขยะ รีไซเคิลแต่ละประเภท เช่น แก้ว โลหะ/อโลหะ พลาสติก กระดาษเป็นต้น ในกรณีที่ไม่มีสถานที่เก็บรวบรวม สามารถใช้วิธีการรับฝากตอน เช่า และให้ร้านรับซื้อของเก่ามารับซื้อในตอนเย็น


2. จัดหาอุปกรณ์ที่จําเป็นในการจัดทําธนาคารขยะ เช่น เครื่องชั่งน้ำหนัก

















3. ระบบเอกสารบัญชี เอกสารที่ต้องจัดเตรียม ได้แก่ จัดทําใบสมัครสมาชิกธนาคาร ขยะรีไซเคิล ทะเบียนลูกค้า ใบนําฝาก ใบถอน เงิน  สมุดคู่ฝาก สมุดการนําฝาก และเอกสาร ในการทําบัญชี      ที่จําเป็น









การเตรียมการเปิดธนาคาร

1. ติดต่อประสานงานกับร้านค้าของเก่า  เกี่ยวกับราคาขยะรีไซเคิลประเภทต่างๆ เพื่อจัดทําตารางเปรียบเทียบราคาขยะรีไซเคิลแต่ละประเภท (ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้) พร้อมทั้งกําหนดวันที่เข้ามารับซื้อจากธนาคาร























2.      การประชาสัมพันธ์ คณะทํางานดำเนินการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจ เรื่องขยะไซเคิลและธนาคารขยะ เพื่อให้เกิดความร่วมมือภายในโรงเรียน มีการทำพิธีเปิดธนาคารหน้าเสาธงเพื่อให้คณะครู บุคลากรและนักเรียนทุกคนได้รับทราบภารกิจร่วมกัน มีการประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย การจัดบอร์ดนิทรรศการ การเดินบอกหรือกำกับโดยหัวหน้าและรองหัวหน้าห้องในแต่ละห้องเรียน การบูรณาการในกิจกรรมของแต่ละรายวิชา เพื่อให้มีสมาชิกมาสมัครเข้าร่วมกิจกรรมให้มากที่สุด นอกจากนี้ทางโรงเรียนได้ทําหนังสือแจ้งผู้ปกครองได้รับทราบถึงการเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งจะเป็นวิธีที่ได้รับความร่วมมือเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทําให้เกิดการคัดแยกขยะที่บ้านก่อนนํามาฝากธนาคาร







3. การอบรมให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการคัดแยกขยะ และการใช้ประโยชน์จากขยะในรูปแบบต่างๆ กับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมีการอบรมนักเรียนแกนนำธนาคารขยะรีไซเคิล ประกอบด้วย นักเรียนที่เป็นคณะทำงาน และหัวหน้าและรองหัวหน้าห้อง การประกวดการจัดบอร์ดให้ความรู้เกี่ยวกับการคัดแยกขยะในแต่ละห้องเรียน (ใช้เงินผลกำไรจากการขายขยะเป็นรางวัล)

การดําเนินการในวันเปิดธนาคาร

รับสมัครสมาชิก  รับสมัครสมาชิกของธนาคาร โดยผู้ที่สนใจกรอกรายละเอียดลงในใบสมัคร จากนั้นเจ้าหน้าที่ธนาคารจะให้เลขที่สมาชิก พร้อมทั้งลงรายละเอียดในสมุดคู่ฝาก โดยธนาคารจะเป็นผู้เก็บรวบรวม สมุดคู่ฝากไว้ที่ธนาคาร ซึ่งสมาชิกสามารถขอดูได้ในวันที่ธนาคารเปิดทําการ

การฝากขยะ

เมื่อสมาชิกนําขยะรีไซเคิลมาฝากที่ธนาคารให้ดําเนินการดังนี้

1. สมาชิกเขียนใบนําฝากตามประเภทขยะรีไซเคิลที่นําฝาก แล้ว นําใบนําฝากพร้อมขยะรีไซเคิล       ที่นํามาส่งให้เจ้าหน้าที่คัดแยก

























2. เจ้าหน้าที่คัดแยก ทําการคัดแยกประเภทขยะตามใบนําฝาก แล้วชั่งน้ำหนัก เสร็จแล้วส่งใบนําฝากให้เจ้าหน้าที่จดบันทึก

3. เจ้าหน้าที่จดบันทึก เรียกสมาชิกเจ้าของบัญชีมาดูการชั่งน้ำหนัก และบันทึกข้อมูลน้ำหนักของขยะรีไซเคิลลงในใบนําฝาก แล้วส่งใบนําฝากให้เจ้าหน้าที่คำนวณเงิน





4. เจ้าหน้าที่คิดเงินจากใบนําฝาก โดยเปรียบเทียบจากราคาที่รับ ซื้อ แล้วบันทึกลงใบนําฝาก

5. เจ้าหน้าที่บัญชีทําการลงบันทึกข้อมูลในสมุดคู่ฝาก เพื่อเก็บเป็น หลักฐาน การฝาก-ถอนของสมาชิก

6. ผู้จัดการธนาคารตรวจสอบความถูกต้องของใบนําฝาก

 (ชื่อ-สกุล เลขที่สมาชิก ราคาต่อหน่วยของขยะรีไซเคิล การคํานวณจํานวนเงินในแต่ละช่อง และจํานวนเงินยอดรวมทั้งหมด) และให้สมาชิกตรวจดูความถูกต้อง แล้วทําการลงลายมือชื่อผู้นําฝาก ผู้จัดการลง ลายมือชื่อในใบนําฝาก และสมุดคู่ฝากของสมาชิกรับรองความถูกต้อง

















การถอนเงิน

หากสมาชิกต้องการถอนเงิน สามารถถอนได้ก็ต่อเมื่อธนาคารขยะรีไซเคิลเปิดทําการครั้งต่อไป และสมาชิกต้องนําขยะรีไซเคิลมาฝากในวันนั้นด้วย จึงจะสามารถถอนเงินได้

การดําเนินการหลังปิดธนาคาร

จัดทําเอกสารทะเบียนลูกค้า หลังจากปิดธนาคารแล้วเจ้าหน้าที่จะต้องรวบรวมใบสมัครสมาชิก มาลงในเอกสารทะเบียนคุมลูกค้า เพื่อเก็บข้อมูลจํานวนสมาชิกทั้งหมด ที่เข้าร่วมกิจกรรม

การขายขยะให้ร้านรับซื้อของเก่า ผู้จัดการธนาคารขยะและครูที่ปรึกษา ประสานงานขายขยะให้แก่ร้านรับซื้อของเก่าที่ติดต่อไว้ โดยส่วนใหญ่จะให้มารับซื้อขยะรีไซเคิลที่ธนาคารขยะในเวลาหลังเลิกเรียน ของวันเปิดธนาคารนั้น

สรุปการดําเนินการของธนาคาร เจ้าหน้าที่ต้องลงรายละเอียดในเอกสารสรุปการนําฝาก และควรมีการสรุปผลการดําเนินงานในแต่ละเดือนและแจ้งให้แก่สมาชิกของ ธนาคาร โดยการจัดบอร์ดนิทรรศการประชาสัมพันธ์ผลการดําเนินงาน ณ บริเวณที่ทําการ



การติดตามประเมินผล

พิจารณาได้จากปริมาณขยะรีไซเคิลที่รวบรวมได้จากจํานวนสมาชิกที่เข้าร่วมกิจกรรม และจากกําไรในการซื้อขาย โดยติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อเปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลง รวมทั้งยังอาจดูจากจํานวนครั้งที่สมาชิกแต่ละคนเข้าร่วม ซึ่งจะบอกได้ว่าธนาคารขยะจะช่วยปลูกฝังนิสัยการคัดแยกขยะที่บ้านได้ผลหรือไม่















แนวทางการสนับสนุนของโรงเรียน

ทางโรงเรียนควรให้การสนับสนุนเพื่อให้ธนาคารคงอยู่และสามารถดําเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง เช่น

-  ให้เกียรติบัตรหรือเงินตอบแทนตามความเหมาะสมแก่คณะทํางาน

-  มอบของที่ระลึก (ปากกา ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด) ให้แก่สมาชิกที่นำขยะทั่วไปซึ่งขายไม่ได้ (ถุงขนม หลอดกาแฟ แก้วน้ำ ห่อลูกอม) มาฝาก

-  ให้โบนัสพิเศษแก่สมาชิกที่มียอดเงินฝากสูง

-  ให้โบนัสพิเศษหรือคะแนนพิเศษแก่สมาชิกที่หาสมาชิกมาเพิ่มได้

-  การจัดทําหลักสูตรพิเศษเรื่องสิ่งแวดล้อมให้นักเรียนได้เรียนรู้ เรื่องการจัดการขยะ

-  การจัดกิจกรรมการประดิษฐ์สิ่งของจากขยะรีไซเคิล แล้วนําสิ่งประดิษฐ์นั้นมาจําหน่าย หรือแจกเป็นของที่ระลึก

- การทำโครงงานเกี่ยวกับการลดขยะในโรงเรียน

ประโยชน์อื่นๆ ของธนาคารขยะรีไซเคิล

1. เยาวชนเกิดความเข้าใจในคุณค่าของวัสดุบางประเภทว่าสามารถนําไปใช้ประโยชน์       ได้หลายครั้ง หรือสามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้

2.  สร้างนิสัยรักการออมทรัพย์ให้กับนักเรียน

3. ช่วยลดปริมาณการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างคุ้มค่า       มีประสิทธิภาพสูงสุด

4. ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้สภาพแวดล้อมดีขึ้น